วันมาฆบูชาวัดไผ่ล้อมจัดพิธีเวียนเทียนตลอดทั้งวัน
ร่วมกิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะกตัญญูกตเวที
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชา ในส่วนของวัดไผ่ล้อมจังหวัดนครปฐมนั้น เน้นร่วมกันจัดกิจกรรมโดยมีศูนย์กลางอยู่
ณ อุโบสถเฉลิมพระเกียรติ หลวงพ่อสุโขทัย พระประธานศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธเมตตาประทานพร และท่านเจ้าคุณพูล วัดไผ่ล้อม
ซึ่งมีกิจกรรมหลักที่สำคัญ คือ การสวดพระพุทธมนต์ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ กิจกรรมการเวียนเทียนตลอดทั้งวัน และการเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพุทธบูชา ทั้งนี้ วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง และได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง
โดย วันมาฆบูชา 2562 ตรงกับ วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ สำหรับประวัติวันมาฆบูชา มีความสำคัญ กล่าวคือคำว่า มาฆะ นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า “มาฆบุรณมี” หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 ความสำคัญของวันนี้คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆกันอันได้แก่วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ เอหิภิกขุอุปสัมปทาและเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า วันจาตุรงคสันนิบาต ซึ่งคำว่า จาตุรงคสันนิบาตนี้ มีความหมายคือการประชุมด้วยองค์ 4 นั่นเอง
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้วันมาฆบูชา ยังถือเป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติในวันมาฆบูชาคือ “โอวาทปาติโมกข์” ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น หลักธรรมประกอบด้วยการไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม)การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” นั่นเอง ฉะนั้นพุทธศาสนิกชนควรมีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชา รวมทั้งหลักธรรมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความตระหนักต่อความสำคัญของพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะชาวพุทธ และยังเป็นการช่วยธำรงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป
……………………………………
วัดไผ่ล้อมจัดพิธีวันมาฆบูชาเวียนเทียนตลอดทั้งวันร่วมกิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะกตัญญูกตเวที
