นครปฐม มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยเปิดงานเดิน-วิ่งมินิมาราธอนการกุศลวิ่งสนุกปลูกปัญญา(RUN FUN FUND)ชิงถ้วยพระราชทานฯ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2562 ที่บริเวณพุทธมณฑล. ตำบลศาลายา. อำเภอพุทธมณฑล. จังหวัดนครปฐม
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. เป็นประธานในพิธีเปิดงานเดิน-วิ่งมินิมาราธอนการกุศลวิ่งสนุกปลูกปัญญา(RUN FUN FUND)พร้อมด้วย นางสายลม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมีด็อกเตอร์ประจักษ์ แสงสว่าง ประธานจัดงานเดิน-วิ่งมินิมาราธอนการกุศลวิ่งสนุกปลูกปัญญา(RUN FUN FUND) กล่าวรายงานวัตถุประสงค์.
ร่วมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิฯ คณะกรรมการจัดงานและนักวิ่ง ร่วมพิธีจำนวนมาก โดยมีการแข่งขันวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตรและเดิน3กิโลเมตร สืบเนื่องจากมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์เป็นองค์กรสาธารณกุศล ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2505 โดยให้บริการคนพิการทางสติปัญญาในด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางด้านต่างๆและฝึกอาชีพตลอดทั้งสวัสดิการปัจจุบันมีหน่วยงานที่ให้บริการทั้งหมด 10 แห่ง ตั้งอยู่ในส่วนกลาง6แห่งและในส่วนภูมิภาค4แห่ง สามารถให้บริการคนพิการทางสติปัญญาทุกระดับวัยและระดับความพิการ จำนวน 500-600 คน
นอกจากนั้นยังได้ขยายการบริการลงสู่ชุมชน. โดยให้การอบรมความรู้แก่ผู้ปกครองและอาสาสมัครตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศพร้อมทั้งให้สวัสดิการผู้มีฐานะยากจนทั้งประจำและครั้งคราวปีละไม่น้อยกว่า 5,000 ราย การดำเนินงานของมูนิธินับได้ว่าช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐและสังคมได้เป็นอย่างมาก. ทุนในการดำเนินงานของมูลนิธิอาศัยจากการรับบริจาคเป็นกำลังสำคัญในแต่ละปีจะใช้งบประมาณจำนวน 55 ล้านบาท.
ดังนั้นคณะกรรมการมูลนิธิฯจึงได้จัดกิจกรรมงานเดิน-วิ่ง มินิมาราธอนการกุศลวิ่งสนุกปลูกปัญญา(RUN FUN FUND)ขึ้นในวันนี้เพื่อหารายได้สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิการแข่งขันครั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามรมราชกุมารี ขณะดำรงพระยศสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ ทั้งประเภทชายและหญิง
และได้รับความสนับสนุนการจัดงานจากหลายหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน. เพื่อส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของคนพิการทางสติปัญญา อีกทั้งเป็นพลังความสามัคคีของคนในชาติ